October 8, 2025

การสัมมนาร่วมกับนักวิจัยในประเทศอาเซียน ในหัวข้อ Biorefinery Catalyst

ที่องค์การงานสัมมนาครั้งนี้ ศูนย์กลางด้านความรู้ทางวิศวกรรมตัวเร่งปฏิกิริยาสำหรับอุตสาหกรรม Biorefinery ประกอบด้วย ศ.ดร.ปิยะสาร ประเสริฐธรรม และ รศ.ดร.ศุภฤกษ์ ประเสริฐธรรม ร่วมกับคณาจารย์จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, Universiti Putra ประเทศมาเลเซีย, Inst. Tech Bandung ประเทศอินโดนีเซีย, Hanoi University of science and technology ประเทศเวียดนาม, Universiti Brunei Darussalam ประเทศบรูไน, National University of Singapore ประเทศสิงคโปร์, ศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติ (ศน.), สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง และมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

 

สำหรับท่านแรก นักวิจัยจากประเทศมาเลเซีย Prof. Taufiq Yap Yun Hin ได้บรรยายในเรื่อง “Catalytic Valorization of Palm Biomass” ซึ่งเป็นการแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับวัตถุดิบตั้งต้นในการผลิตเชื้อเพลิงชีวภาพ (Biofuels Feedstock) ในประเทศมาเลเซีย โดยได้อธิบายว่าในปัจจุบันประกอบด้วยชนิดใดบ้าง รวมถึงบรรยายถึงกระบวนการการนำกลับมาใช้ใหม่ เพื่อให้ได้มาซึ่งเชื้อเพลิงพลังงานสีเขียว (Green Fuel) อันเป็นส่วนหนึ่งของการบรรลุเป้าหมายการปล่อยคาร์บอนบริสุทธิเป็นศูนย์ (Net-Zero Carbon Emissions)

โดย Prof. Taufiq ได้กล่าวถึงการวิจัยที่มุ่งเน้นการเปลี่ยนน้ำมันเหลือทิ้งจากการทำอาหารและไขมันสัตว์เหลือใช้ให้เป็นเชื้อเพลิงสำหรับอากาศยาน (Jet Fuel) และเชื้อเพลิงดีเซล นอกจากนี้ยังมีการนำเสนอโรงผลิตก๊าซชีวภาพ (Biogas Plant) ในไร่ปาล์มที่นำ POME (Palm Oil Mill Effluent) มาผลิตเป็นพลังงาน รวมถึงการพัฒนาไฮโดรเจนให้สามารถทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการจัดเก็บและขนส่งพลังงาน (Energy Carrier) อีกด้วย

ทั้งนี้ ประเทศมาเลเซียได้ส่งเสริมการนำพลังงานกลับมาใช้ซ้ำภายใต้กรอบของ SDGs (UN Sustainable Development Goals Agenda) โดยเฉพาะใน Goal 7 (Affordable and Clean Energy) และ Goal 12 (Sustainable Consumption and Production)

 

ถัดมา นักวิจัยจากประเทศอินโดนีเซีย Prof. Dr. Ir. IGB Ngurah ได้บรรยายเกี่ยวกับการวิจัยและพัฒนาโรงกลั่นชีวภาพ (Biorefinery R&D) ในประเทศอินโดนีเซีย โดยได้อธิบายการประยุกต์ใช้ไบโอไฮโดรคาร์บอน (Biohydrocarbon) ในการผลิตสารเคมีและเชื้อเพลิงชีวภาพต่าง ๆ เช่น ไบโอดีเซล (Biodiesel), ไบโอฟิวเอล (Biofuels), ไบโอเอทานอล (Bioethanol), อะโรเมติกส์ (Aromatics) และเชื้อเพลิงแข็ง (Solid Fuels) เป็นต้น

นอกจากนี้ ยังได้แสดงชนิดของน้ำมันพืชที่ใช้เป็นวัตถุดิบ พร้อมระบุแหล่งที่มาของน้ำมันพืชดังกล่าว เช่น พืชในประเทศมาเลเซียอย่าง Kapoh (Sterculia sp.) และ Malapari (Pongamia sp.) เป็นต้น ต่อมาได้อธิบายแผนการวิจัยที่นำน้ำมันพืชเหล่านี้ไปผลิตเป็น เบนซีน–โทลูอีน–ไซลีน (BTX) และ น้ำมันเบนซิน (Gasoline) รวมถึงเชื้อเพลิงสำหรับอากาศยาน  (Jet Fuel) รวมถึงการดำเนินการทดสอบการใช้งานเชื้อเพลิงดังกล่าวในการบินทดลอง เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการพัฒนาต่อยอดสำหรับการใช้งานจริงในอนาคต

 

ต่อมา นักวิจัยจากประเทศเวียดนาม Assoc. Prof. Dr. Le Minh Thang ได้บรรยายในหัวข้อ “Environmental Friendly Material and Technology” ในเชิงของ Biorefinery โดยแนวทางการวิจัยมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาตัวเร่งปฏิกิริยาที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สำหรับการใช้งานในด้านต่าง ๆ เช่น การดักจับคาร์บอนไดออกไซด์ การทำไพโรลิซิสของชีวมวล (Biomass Pyrolysis) เพื่อผลิตสารเคมีที่มีมูลค่าเพิ่ม การบำบัดน้ำเสียโดยกระบวนการโฟโตคะตะลิซิส (Photocatalysis) การบำบัดก๊าซที่เป็นมลภาวะโดยใช้ตัวเร่งปฏิกิริยาที่เป็นสารประกอบออกไซด์ผสม การบำบัดก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ที่อุณหภูมิห้อง รวมถึงการบำบัดก๊าซไอเสียชนิดต่าง ๆ อีกเช่นกัน

 

ถัดมา นักวิจัยจากประเทศบรูไน Dr. Hj Abdul Hanif Bin Dato Paduka Hj Mahadi ได้บรรยายในหัวข้อ “CO2 as a Sustainable Feedstock for High-value Chemical” ซึ่งเป็นการวิจัยเกี่ยวกับการนำคาร์บอนไดออกไซด์มาใช้เป็นวัตถุดิบที่ยั่งยืน เพื่อผลิตสารเคมีที่มีมูลค่าสูง โดยมีแนวทางการศึกษา เช่น การทำกระบวนการมีเทเนชัน (Methanation) ของคาร์บอนไดออกไซด์ เพื่อแปลงให้เป็นสารอื่นที่สามารถกักเก็บไฮโดรเจน (H2) ได้ การทำกระบวนการดรายรีฟอร์มมิง (Dry Reforming) เพื่อผลิตก๊าซสังเคราะห์ (Synthetic Gas) และการเปลี่ยนคาร์บอนไดออกไซด์ไปเป็นผลิตภัณฑ์เหลว เช่น เมทานอล (Methanol) และ ไฮโดรคาร์บอน (C2–C4)

นอกจากนี้ Dr. Hanif ยังได้บรรยายเพิ่มเติมเกี่ยวกับการนำเซลลูโลสมาใช้ในการผลิตไฮโดรเจน ผ่านกระบวนการไฮโดรไลซิสด้วยน้ำ (Hydrolysis) และกระบวนการรีฟอร์มมิงแบบโฟโตคะตะลิซิส (Photocatalytic Reforming) อีกด้วย

 

ต่อมา นักวิจัยจากประเทศสิงคโปร์ Prof. Ning Yan ได้บรรยายเกี่ยวกับภาพรวมของกิจกรรมงานวิจัยด้านชีวมวลในประเทศสิงคโปร์ ซึ่งครอบคลุมการวิจัยในหลายสาขา เช่น การแปรรูปไม้ให้เป็นพอลิเมอร์ที่ยั่งยืน การนำเปลือกหอยมาพัฒนาเป็นวัตถุดิบสำหรับโรงกลั่นชีวภาพ การทำอัปไซคลิง (Upcycling) ขยะพลาสติก รวมถึงการผสานการทำงานร่วมกันระหว่างชีวมวลและพลาสติก เพื่อสร้างวัสดุและผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มีมูลค่าเพิ่ม

ในปัจจุบัน Prof. Ning Yan ได้ดำเนินโครงการร่วมกับภาคอุตสาหกรรม เพื่อแปรรูปชีวมวลให้เป็นสารลดแรงตึงผิวสีเขียว (Green Surfactants) และวัสดุชีวภาพ (Biomaterials) ซึ่งเป็นการนำวัสดุเหลือทิ้งที่มีมูลค่าต่ำมาใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืน นอกจากนี้ยังได้ศึกษาการทำงานของตัวเร่งปฏิกิริยาในระดับนาโน–ซับนาโน และระดับอะตอม เพื่อทำความเข้าใจเชิงลึกในกระบวนการเร่งปฏิกิริยาอีกด้วย

 

และสำหรับประเทศไทย ดร.ขจรศักดิ์ เฟื่องนวกิจ จาก ศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติ (ศน.) ได้แนะนำเกี่ยวกับภาพรวมของงานวิจัยด้านโรงกลั่นชีวภาพ (Biorefinery) ในประเทศไทย ซึ่งประกอบด้วยโครงการและกลุ่มงานสำคัญ ได้แก่ “กลุ่มศูนย์กลางความรู้ด้านวิศวกรรมเร่งปฏิกิริยา (Biorefinery Hub of Knowledge)”, “Inno-Agro Industry Program” ของ NSTDA, และ “Biorefinery ChemCatalyst และ Process Development” โดยเน้นไปที่การศึกษาและพัฒนาศักยภาพของชีวมวลในประเทศไทย การเปลี่ยนชีวมวลไปเป็น Bio coal, Biochar, Activated Carbon รวมถึงการ Pretreatment และ Fractionation ของชีวมวล การแปลงน้ำตาลชนิด C5–C6 ไปเป็น กรดแลคติก (Lactic Acid), กรดเลฟลินิค (Levulinic Acid), และกรด FDCA ตลอดจนการนำน้ำมันมาใช้เป็นสารหลักของโรงกลั่นชีวภาพ รวมถึงผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ของทาง Nanotech และการนำเสนอแนวทาง “Carbon Capture Utilization & Storage (CCUS)” ในประเทศไทยถัดมา ศ.ดร.ตะวัน สุขน้อย จาก สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ได้เสริมการบรรยายในหัวข้อ “การเร่งปฏิกิริยาการเพิ่มมูลค่าของฐานปาล์มจาก Feedstocks ในประเทศไทย” โดยบรรยายถึงการศึกษาบทบาทของเชื้อเพลิงชีวภาพ และการเปลี่ยนน้ำมันปาล์มไปเป็นเชื้อเพลิงและสารเคมีร่วมด้วยสุดท้าย ศ.ดร.ปิยะสาร ประเสริฐธรรม ได้นำเสนอหัวข้อ “Update งานวิจัยในปัจจุบัน” โดยกล่าวถึงความก้าวหน้าทางด้านการวิจัยและเทคโนโลยีของประเทศไทย และก่อนปิดงานสัมมนา ได้มีการปรึกษาและอภิปรายร่วมกันระหว่างนักวิจัยทุกท่านที่เข้าร่วม เพื่อกำหนดแนวทางการสร้างเครือข่ายงานวิจัย Biorefinery Catalyst ในภูมิภาค ASEAN ต่อไปในอนาคต

2023 © Hub of Knowledge All rights reserved.

crossmenu